[ว่าด้วยกัปปิยการกและไวยาวัจกร]

ข้อมูลจาก พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ชุด ๙๑ เล่ม ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

(พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๒๕) (ปกสีน้ำเงิน) และ (พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๔๖) (ปกสีแดง)

 

[ว่าด้วยกัปปิยการกและไวยาวัจกร]

 

เล่ม ๓ หน้า ๘๕๙-๘๖๓ (ปกสีน้ำเงิน) / หน้า ๘๑๐-๘๑๓ (ปกสีแดง)

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓

 

บางส่วนของ จีวรวรรคที่ ๑ สิกขาบทที่ ๑๐ พรรณนาราชสิกขาบท

 

[ว่าด้วยกัปปิยการกและไวยาวัจกร]

 

          ถามว่า ก็ในกัปปิยการกทั้งปวง จะพึงปฏิบัติอย่างนี้หรือ ?

          แก้ว่า ไม่ต้องปฏิบัติ (อย่างนี้เสมอไป).

 

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๘๖๐ (พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๒๕) (ปกสีน้ำเงิน)

 

          แท้จริง ชื่อว่า กัปปิยการกนี้ โดยสังเขปมี ๒ อย่าง คือ

ผู้ที่ถูกแสดง ๑

ผู้ที่มิได้ถูกแสดง ๑,

ใน ๒ พวกนั้น กัปปิยการกผู้ที่ถูกแสดงมี ๒ คือ

ผู้ที่ภิกษุแสดงอย่างหนึ่ง

ผู้ที่ทูตแสดงอย่างหนึ่ง.

แม้กัปปิยการกที่ไม่ถูกแสดงก็มี ๒ อย่าง คือ

กัปปิยการกผู้ออกปากเป็นเองต่อหน้า ๑

กัปปิยการกลับหลัง ๑.

บรรดากัปปิยการก ที่ภิกษุแสดงเป็นต้นนั้น

กัปปิยการกที่ภิกษุแสดง มี ๔ อย่าง

ด้วยอำนาจต่อหน้าและลับหลัง.

กัปปิยการกที่ทูตแสดงก็เช่นเดียวกันแล.

          อย่างไร ?

คือบุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมส่งอกัปปิยวัตถุไปด้วยทูต

เพื่อประโยชน์แก่จีวรสำหรับภิกษุ.

ทูตเข้าไปหาภิกษุรูปนั้น กล่าวว่า

ท่านขอรับ !

ท่านผู้มีชื่ออย่างนี้ ส่งอกัปปิยวัตถุนี้

มาเพื่อประโยชน์แก่จีวรสำหรับท่าน,

ขอท่านจงรับอกัปปิยวัตถุนั้น.

ภิกษุห้ามว่า อกัปปิยวัตถุนี้ไม่สมควร.

ทูตถามว่า ท่านขอรับ ! ก็ไวยาวัจกรของท่านมีอยู่หรือ ?

และไวยาวัจกรทั้งหลายที่พวกอุบาสก

ผู้ต้องการบุญสั่งไว้ว่า

พวกท่านจงทำการรับใช้แก่ภิกษุทั้งหลาย

หรือไวยาวัจกรบางพวกเป็นเพื่อนเคยเห็นเคยคบกันมาของภิกษุทั้งหลายมีอยู่.

บรรดาไวยาวัจกรเหล่านั้น คนใดคนหนึ่ง นั่งอยู่ในสำนักของภิกษุ ในขณะนั้น.

ภิกษุแสดงเขาว่า ผู้นี้เป็นไวยาวัจกรของภิกษุทั้งหลาย ดังนี้.

ทูตมอบอกัปปิยวัตถุไว้ในมือของไวยาวัจกรนั้น สั่งว่า

ท่านจงซื้อจีวรถวายพระเถระ ดังนี้ แล้วไป.

นี้ชื่อว่าไวยาวัจกรที่ภิกษุแสดงต่อหน้า.

          ถ้าไวยาวัจกร มิได้นั่งอยู่ในสำนักของภิกษุ,

อนึ่งแล ภิกษุย่อมแสดงขึ้นว่า

คนชื่อนี้ ในบ้านชื่อโน้น เป็นไวยาวัจกรของภิกษุทั้งหลาย.

 

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๘๖๑ (พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๒๕) (ปกสีน้ำเงิน)

 

ทูตนั้นไปมอบอกัปปิยวัตถุไว้ในมือของไวยาวัจกรนั้นสั่งว่า

ท่านพึงซื้อจีวรถวายพระเถระมาบอกแก่ภิกษุแล้วจึงไป.

ไวยาวัจกรนี้ ชื่อว่าผู้อันภิกษุแสดงไม่พร้อมหน้า อย่างหนึ่ง.

          ก็แล ทูตนั้นมิได้มาบอกด้วยตนเองเลย แต่กลับวานผู้อื่นไปบอกว่า

ท่านขอรับ ! ทรัพย์สำหรับจ่ายค่าจีวร ผมได้มอบไว้ในมือผู้นั้น, ขอท่านพึงรับเอาจีวรเถิด.

ไวยาวัจกรนี้ ชื่อว่าผู้อันภิกษุแสดงไม่พร้อมหน้า อย่างที่สอง.

          ทูตนั้น มิได้วานคนอื่นไปเลย, แต่ไปบอกภิกษุเสียเองแลว่า

ผมจักมอบทรัพย์สำหรับจ่ายจีวรไว้ในมือแห่งผู้นั้น, ขอท่านพึงรับเอาจีวรเถิด.

ผู้นี้ชื่อว่า ไวยาวัจกรที่ภิกษุแสดงไม่พร้อมหน้า อย่างที่สาม.

ด้วยประการดังกล่าวมานี้

ไวยาวัจกร ๔ จำพวกเหล่านี้ คือ

ผู้ที่ภิกษุแสดงต่อหน้าจำพวกหนึ่ง

ผู้ที่ภิกษุแสดงไม่พร้อมหน้า ๓ จำพวก

ชื่อว่าไวยาวัจกรที่ภิกษุแสดง.

ในไวยาวัจกร ๔ จำพวกนี้

ภิกษุพึงปฏิบัติ โดยนัยที่พระผู้มีพระภาคเจ้า

ตรัสไว้ในราชสิกขาบทนี้แล.

          ภิกษุอีกรูปหนึ่งถูกทูตถามแล้ว โดยนัยก่อนนั่นแล

เพราะไวยาวัจกรไม่มี หรือเพราะไม่อยากจะจัดการ จึงกล่าวว่า

พวกเรา ไม่มีกัปปิยการก

และในขณะนั้นมีคนบางคนผ่านมา,

ทูตจึงมอบอกัปปิยวัตถุไว้ในมือของเขา แล้วกล่าวว่า

ท่านพึงรับเอาจีวรจากมือของผู้นี้เถิด แล้วไปเสีย,

ไวยาวัจกรนี้ ชื่อว่าผู้อันทูตแสดงต่อหน้า.

          ยังมีทูตอื่นอีกเข้าไปยังบ้านแล้ว

มอบอกัปปิยวัตถุไว้ในมือของผู้ใดผู้หนึ่ง ที่ชอบพอกับตน

แล้วมาบอก หรือวานผู้อื่นไปบอกโดยนัยก่อนนั่นแล

หรือกล่าวว่า ผมจักให้ทรัพย์สำหรับจ่ายจีวรไว้ในมือของคนชื่อ

 

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๘๖๒ (พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๒๕) (ปกสีน้ำเงิน)

 

โน้น, ท่านพึงรับเอาจีวรเถิด ดังนี้ แล้วไปเสีย.

ไวยาวัจกรที่ ๓ นี้ชื่อว่าผู้ที่ทูตแสดงไม่พร้อมหน้า

ด้วยประการดังกล่าวมานี้

ไวยาวัจกร ๔ จำพวกเหล่านี้

คือไวยาวัจกรที่ทูตแสดงต่อหน้าจำพวกหนึ่ง

ไวยาวัจกรที่ทูตแสดงไม่พร้อมหน้า ๓ จำพวก

ชื่อว่าไวยาวัจกรที่ทูตแสดง.

ในไวยาวัจกร ๔ จำพวกเหล่านี้

ภิกษุพึงปฏิบัติ โดยนัยดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ในเมณฑกสิกขาบทนั่นแล.

          สมจริงดังคำที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า

ภิกษุทั้งหลาย มีอยู่พวกมนุษย์ที่มีศรัทธาเลื่อมใส,

มนุษย์เหล่านั้น ย่อมมอบหมายเงิน และทอง

ไว้ในมือแห่งกัปปิยการกทั้งหลายสั่งว่า

พวกท่านจงจัดของที่ควรถวายแก่พระผู้เป็นเจ้าด้วยเงินและทองนี้

ภิกษุทั้งหลาย ! เราอนุญาต ให้ยินดี

สิ่งของซึ่งเป็นกัปปิยะจากเงินและทองนั้น,

ภิกษุทั้งหลาย ! แต่เราหากล่าวไม่เลยว่า

ภิกษุพึงยินดี พึงแสวงหาทองและเงิน โดยปริยาย ไร ๆ.

          ในอธิการแห่งไวยาวัจกร ๔ จำพวกที่ทูตแสดงนี้

ไม่มีกำหนดการทวง.

การที่ภิกษุผู้ไม่ยินดีมูลค่า ยินดีแต่กัปปิยภัณฑ์โดยการทวงหรือการยืน

แม้ตั้งพันครั้ง ก็ควร.

ถ้าไวยาวัจกรนั้นไม่ให้,

แม้จะพึงตั้งกัปปิยการกอื่น ให้นำมาก็ได้.

ถ้ากัปปิยการกอื่นปรารถนาจะนำมา,

ภิกษุพึงบอกแม้แก่เจ้าของเดิม.

ถ้าไม่ปรารถนา, ก็ไม่ต้องบอก.

          ภิกษุอีกรูปหนึ่ง ถูกทูตถามโดยนัยก่อนเหมือนกัน กล่าวว่า

พวกเราไม่มีกัปปิยการก.

คนอื่นจากทูตนั้น ยืนอยู่ใกล้ ๆ ได้ยินจึงกล่าวว่า

ผู้เจริญ ! โปรดนำมาเถิด,

ผมจักจ่ายจีวรถวายพระคุณเจ้า ดังนี้.

ทูตกล่าวว่า เชิญเถิด ท่านผู้เจริญ !

ท่านพึงถวาย แล้วมอบไว้ในมือของผู้นั้น

 

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๘๖๓ (พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๒๕) (ปกสีน้ำเงิน)

 

ไม่บอกแก่ภิกษุเลย ไปเสีย.

นี้ชื่อว่ากัปปิยการกผู้ออกปากเป็นเองต่อหน้า.

          ทูตอีกคนหนึ่งมอบอกัปปิยวัตถุไว้

ในมืออุปัฏฐากของภิกษุ หรือคนอื่นสั่งว่า

ท่านพึงถวายจีวรแก่พระเถระ แล้วหลีกไปจากที่นั่นทีเดียว.

นี้ชื่อว่า กัปปิยการกลับหลัง ;

ฉะนั้น กัปปิยการกทั้งสองนี้จึงชื่อว่า

กัปปิยการกที่ทูตไม่ได้แสดง.

ในกัปปิยการกทั้ง ๒ นี้

พึงปฏิบัติเหมือนในอัญญาตกสิกขาบทและอัปปวาริตสิกขาบทฉะนั้น.

ถ้ากัปปิยการกที่ทูตมิได้แสดงทั้งหลาย

นำจีวรมาถวายเอง ภิกษุพึงรับ,

ถ้าไม่ได้นำมาถวาย, อย่าพึงพูดคำอะไร ๆ.

          ก็คำว่า  ทูเตน จีวรเจตาปนํ ปหิเณยฺย  นี้ สักว่าเป็นเทศนาเท่านั้น.

ถึงในพวกกัปปิยการกแม้ผู้นำอกัปปิยวัตถุมาถวาย

เพื่อประโยชน์แก่บิณฑบาตเป็นต้นด้วยตนเอง

ก็มีนัยอย่างนี้เหมือนกัน.

ภิกษุจะรับเพื่อประโยชน์แก่ตนเองอย่างเดียวเท่านั้น ไม่สมควร.

 

http://www.tripitaka91.com/3-859-18.html

D-study.com

ช่องทางการติดต่อ

facebook FaceBook

phone 0894453994