การบัญญัติสิกขาบทที่มิได้ทรงบัญญัติ หรือการถอนสิกขาบทที่ทรงบัญญัติไว้แล้ว โดยนัยว่า ปาจิตตีย์ ทุกกฏ เป็นต้น นี้เป็นพุทธวิสัย.
- ฮิต: 6091
ข้อมูลจาก พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ชุด ๙๑ เล่ม ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย
(พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๒๕) (ปกสีน้ำเงิน) และ (พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๔๖) (ปกสีแดง)
“การบัญญัติสิกขาบทที่มิได้ทรงบัญญัติ
หรือการถอนสิกขาบทที่ทรงบัญญัติไว้แล้ว
โดยนัยว่า ปาจิตตีย์ ทุกกฏ เป็นต้น นี้เป็นพุทธวิสัย.”
เล่ม ๓ หน้า ๙๑๕ (ปกสีน้ำเงิน) / หน้า ๘๖๓ (ปกสีแดง)
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓
บางส่วนของ
โกสิยวรรคที่ ๒ สิกขาบทที่ ๕
พรรณนานิสีทนสันถตสิกขาบท
ข้อว่า น มยํ อปฺปญฺตฺตํ ปญฺาเปสฺสาม มีความว่า
เราทั้งหลายชื่อว่าเป็นสาวก
จักไม่บัญญัติข้อที่พระผู้มีพระภาคเจ้ามิได้ทรงบัญญัติไว้.
จริงอยู่ วิสัย คือการบัญญัติสิกขาบทที่มิได้ทรงบัญญัติ
หรือการถอนสิกขาบทที่ทรงบัญญัติไว้แล้ว
โดยนัยว่า ปาจิตตีย์ ทุกกฏ เป็นต้น นี้เป็นพุทธวิสัย.
ด้วยบทว่า สมาทาย นี้ พระอุปเสนะ แสดงว่า
เราทั้งหลายจักสมาทานสิกขาบทนั้น ๆ แล้วรับว่า ดีละ โดยดี
ดังนี้แล้วจักศึกษาในสิกขาบททั้งปวง
ตามที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้.
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงมีพระหฤทัยโปรดปรานแล้ว
ได้ทรงกระทำสาธุการแม้อีก แก่พระอุปเสนะนั้นว่า
ดีละ ดีละ.