ชนเหล่าใดคบหาสมาคม ทำตามเยี่ยงอย่างภิกษุทุศีล ข้อนั้นย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งอันไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์แก่ชนเหล่านั้นตลอดกาลนาน

ข้อมูลจาก พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ชุด ๙๑ เล่ม ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

(พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๒๕) (ปกสีน้ำเงิน) และ (พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๔๖) (ปกสีแดง)

  

“ภิกษุนวกะก็ดี ภิกษุมัชฌิมะก็ดี ภิกษุเถระก็ดี

ถ้าเป็นผู้ทุศีลมีธรรมอันเลว

เรากล่าวความทุศีลมีธรรมเลวนี้

ในความมีสีทรามของภิกษุ

กล่าวบุคคลนี้ว่าเหมือนผ้าเปลือกไม้มีสีทรามฉะนั้น

อนึ่ง ชนเหล่าใดคบหาสมาคม

ทำตามเยี่ยงอย่างภิกษุนั้น

ข้อนั้นย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งอันไม่เกื้อกูล

เพื่อทุกข์แก่ชนเหล่านั้นตลอดกาลนาน”

 

เล่ม ๓๔ หน้า ๔๘๙-๔๙๑ (ปกสีน้ำเงิน) / หน้า ๕๐๗-๕๑๑ (ปกสีแดง)

พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ติกนิบาตร เล่ม ๑ ภาค ๓

 

๘. นวสูตร

ว่าด้วยบุคคลที่เปรียบได้กับผ้าเปลือกไม้ ๓ ชนิด

 

          [๕๓๙]  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

ผ้าเปลือกไม้ แม้ใหม่ก็สีทราม สัมผัสหยาบ และราคาถูก

แม้กลางใหม่กลางเก่าก็สีทราม สัมผัสหยาบ และราคาถูก

แม้เก่าแล้วก็สีทราม สัมผัสหยาบ และราคาถูก

ผ้าเปลือกไม้ที่คร่ำคร่าแล้ว

เขาก็ทำเป็นผ้าเช็ดหม้อข้าวบ้าง ทิ้งเสียที่กองขยะบ้างฉันใด

          ฉันนั้นนั่นแหละ ภิกษุทั้งหลาย

ภิกษุนวกะก็ดี ภิกษุมัชฌิมะก็ดี ภิกษุเถระก็ดี

ถ้าเป็นผู้ทุศีลมีธรรมอันเลว

เรากล่าวความทุศีลมีธรรมเลวนี้

ในความมีสีทรามของภิกษุ

กล่าวบุคคลนี้ว่าเหมือนผ้าเปลือกไม้มีสีทรามฉะนั้น

          อนึ่ง ชนเหล่าใดคบหาสมาคม ทำตามเยี่ยงอย่างภิกษุนั้น

ข้อนั้นย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งอันไม่เกื้อกูล

เพื่อทุกข์แก่ชนเหล่านั้นตลอดกาลนาน

เรากล่าวการคบหาสมาคมทำตามเยี่ยงอย่าง

ที่เป็นเหตุให้เกิดสิ่งอันไม่เกื้อกูลเกิดทุกข์นี้

ในความมีสัมผัสหยาบของภิกษุ

กล่าวบุคคลนี้ว่า ดุจผ้าเปลือกไม้มีสัมผัสหยาบฉะนั้น

          อนึ่ง ภิกษุนั้นรับจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ คิลานปัจจัย... ของชนเหล่าใด

ข้อนั้น ย่อมไม่เป็นการมีผลานิสงส์มากแก่ชนเหล่านั้น

เรากล่าวการรับปัจจัยอันไม่เป็นการมีผลานิสงส์มากแก่ทายกนี้

ในความมีราคาถูกของภิกษุ กล่าวบุคคลนี้ว่าเป็นดังผ้าเปลือกไม้มีราคาถูกฉะนั้น

          อนึ่ง ภิกษุเถระชนิดนั้น กล่าวอะไรในท่ามกลางสงฆ์

ภิกษุทั้งหลายก็กล่าวเอาว่า

ประโยชน์อะไรด้วยถ้อยคำของท่านผู้โง่เขลาอย่างท่านก็เผยอจะพูดด้วย

ภิกษุเถระนั้นโกรธน้อยใจ

ก็จะใช้ถ้อยคำชนิดที่เป็นเหตุให้สงฆ์ลงอุกเขปนียกรรม

(คือห้ามไม่ให้ติดต่อเกี่ยวข้องกับภิกษุทั้งหลาย)

เหมือนเขาทิ้งผ้าเปลือกไม้เก่าเสียที่กองขยะฉะนั้น

 

พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ติกนิบาตร

เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๔๙๐ (พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๒๕) (ปกสีน้ำเงิน)

 

          ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย

ผ้ากาสี แม้ใหม่ก็สีงาม สัมผัสนิ่มและราคาแพง

แม้กลางใหม่กลางเก่าก็สีงาม สัมผัสนิ่มและราคาแพง

แม้เก่าแล้วก็สีงาม สัมผัสนิ่มและราคาแพง

ผ้ากาสี ถึงคร่ำคร่าแล้ว เขายังใช้เป็นผ้าห่อรัตนะ

(คือเงินทองเพชรพลอย่อมมีค่า) บ้าง

เก็บไว้ในคันธกรณฑ์ (หีบอบของหอม) บ้าง ฉันใด.

          ฉันนั้นนั่นแหละ ภิกษุทั้งหลาย

ภิกษุนวกะก็ดี ภิกษุมัชฌิมะก็ดี ภิกษุเถระก็ดี

ถ้าเป็นผู้มีศีลมีธรรมอันดี

เรากล่าวความมีศีลมีธรรมดีนี้ ในความมีสีงามของภิกษุ

กล่าวบุคคลนี้ว่าเหมือนผ้ากาสีมีสีงามฉะนั้น

          อนึ่ง ชนเหล่าใดคบหาสมาคมทำตามเยี่ยงอย่างภิกษุนั้น

ข้อนั้นย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์สุข

ของชนเหล่านั้นตลอดกาลนาน

เรากล่าวการคบหาสมาคมทำตามอย่างที่เป็นเหตุให้เกิดประโยชน์สุขนี้

ในความมีสัมผัสนิ่มของภิกษุ

กล่าวบุคคลนี้ว่า ดุจผ้ากาสีมีสัมผัสนิ่มฉะนั้น       

          อนึ่ง ภิกษุนั้นรับจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ คิลานปัจจัย... ของชนเหล่าใด

ข้อนั้นย่อมเป็นการมีผลานิสงส์มากแก่ชนเหล่านั้น

เรากล่าวการรับปัจจัยอันเป็นการมีผลานิสงส์มากแก่ทายกนี้

ในความมีราคาแพงของภิกษุ

กล่าวบุคคลนี้ว่า เสมือนผ้ากาสีมีราคาแพงฉะนั้น

          อนึ่ง ภิกษุเถระผู้มีคุณธรรมอย่างนี้ กล่าวอะไรขึ้นในท่ามกลางสงฆ์

ภิกษุทั้งหลายก็พากันว่า ท่านทั้งหลาย จงสงบเสียงเถิด

ภิกษุผู้ใหญ่จะกล่าวธรรมกล่าววินัยนี้ ดังนี้

          เพราะเหตุนั้น

ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกในข้อนี้ว่า

เราทั้งหลายจักเป็นอย่างผ้ากาสี

ไม่เป็นอย่างผ้าเปลือกไม้

ภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล.

 

จบนวสูตรที่   ๘

 

พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ติกนิบาตร

เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๔๙๑ (พิมพ์ พ.ศ. ๒๕๒๕) (ปกสีน้ำเงิน)

 

อรรถกถานวสูตร

 

          พึงทราบวินิจฉัยในนวสูตรที่ ๘ ดังต่อไปนี้ :-

          ผ้าที่ตรัสว่าใหม่ เพราะอาศัยการกระทำ.

ผ้าที่ทำจากปอ ชื่อว่า  โปตถกะ.

ผ้าที่ชื่อว่า  ปานกลาง  ได้แก่ ผ้ากลางเก่ากลางใหม่เพราะใช้.

ผ้าที่ชื่อว่า  เก่า  ได้แก่ ผ้าเก่าเพราะใช้.

บทว่า  อุกฺขลิปริมชฺชนํ  ได้แก่ เป็นผ้าเช็ดหม้อข้าว.

บทว่า  ทุสฺสีโล  ได้เเก่ ไม่มีศีล.

บทว่า  ทุพฺพณฺณตาย  ได้แก่ เพราะเป็นผู้มีผิวพรรณทราม เนื่องจากไม่มีสี คือคุณ.

บทว่า  ทิฏฺฐานุคตึ   อาปชฺชนฺติ  ได้แก่

ภิกษุทั้งหลายพากันทำตามอย่างที่ภิกษุนั้นทำไว้แล้ว.

บทว่า  น  มหปฺผลํ  โหติ  ความว่า ไม่มีผลมาก โดยผลคือวิบาก.

บทว่า  น  มหานิสํสํ  ความว่า ไม่มีอานิสงส์มาก โดยอานิสงส์คือวิบาก.

บทว่า  อปฺปคฺฆตาย  ได้แก่ เพราะการรับนั้นมีค่าน้อย โดยค่าคือวิบาก.

บทว่า  กาสิกํ วตฺถํ  ได้แก่ ผ้าที่ทอโดยปั่นด้ายจากฝ้าย.

ก็แลผ้าชนิดนั้นเกิดขึ้นเฉพาะในแคว้นกาสี.

          บทที่เหลือง่ายทั้งนั้น.

ส่วนศีลในสูตรนี้

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ปนกันแล.

 

จบอรรถกถานวสูตรที่ ๘

  

http://www.tripitaka91.com/34-489-1.html

D-study.com

ช่องทางการติดต่อ

facebook FaceBook

phone 0894453994